สุดเศร้า ญาติรับ 18 ศพบัสตกเขาพลึง แม่ฝันฟันหักหมดปาก ก่อนเสียลูกชาย
ญาติผู้เสียชีวิตจากรถบัสตกเหวเขาพลึง 18 ศพ นำหลักฐานมารับศพที่ รพ.อุตรดิตถ์ หลังผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์ระบุตัวตน แม่ของคนขับที่ 1 ที่ตายด้วย บอกกลางคืนฝันฟันหักหมดปาก พอบ่ายก็ได้รับข่าวร้าย ล่าสุด กู้รถบัสขึ้นจากก้นเหวได้แล้ว…
จากอุบัติเหตุรถบัสร่วม บขส. ที่มีชมรมผู้เกษียณอายุ กสท เช่าเหมาคันเดินทางท่องเที่ยวทางภาคเหนือ ประสบอุบัติเหตุตกเหวบริเวณเขาพลึง อ.เมืองอุตรดิตถ์ ในช่วงสายวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 18 ศพ บาดเจ็บ 20 คน (รถทัวร์ ‘ผู้เกษียณอายุ กสท’ ตกเขาพลึงที่อุตรดิตถ์ สรุปดับ 18 เจ็บ 20)
ต่อมา วันที่ 23 พ.ย. บริเวณห้องนภาลัย โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ จุดตั้ง “ศูนย์อำนวยการเหตุรถทัวร์ตกเหว” ซึ่งบริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จังหวัดอุตรดิตถ์ บริษัท วิริยะ ประกันภัย จํากัด (มหาชน) และโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ระดมเจ้าหน้าที่มาตั้งโต๊ะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนำหลักฐานมาติดต่อระบุตัวตน ขอเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ และเคลื่อนย้ายศพ พร้อมขอรับสินไหมทดแทน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นางเสริญ อินทรจักษ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 5 ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย มารดาของ นายประสิทธิ์ อินทรจักษ์ พนักงานขับรถคนที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้า ว่า นายประสิทธิ์ เป็นลูกชายคนเดียว เป็นกำลังสำคัญส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ รวมถึงลูกสาววัย 3 ขวบ ซึ่งตนเองเป็นผู้เลี้ยง ก่อนที่จะรู้ข่าวลูกชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ได้ฝันว่าฟันหักหมดปาก แต่คิดว่าคงไม่มีอะไร จนมารู้ข่าวตอนบ่ายสามโมงของวันที่ 22 พ.ย. ว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว หลังจากนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป และยังไม่กล้าบอกข่าวร้ายกับหลานสาวที่อายุเพียง 3 ขวบว่าพ่อได้เสียชีวิตแล้ว
ส่วนทางด้านคดี พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.คีรี เกียรติสาร รอง ผบก.ภ.อุตรดิตถ์ เป็นหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวน และตั้งเจ้าหน้าที่เพิ่มอีก 18 นาย เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ขณะที่ นายอุดม สุมมาตร คนขับรถทัวร์ขณะนี้ยังไม่สามารถสอบอะไรเพิ่มเติมได้ เพราะยังบาดเจ็บสาหัส และอาจจะต้องผ่าตัด รวมทั้งต้องให้กู้ซากรถขึ้นมาก่อน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่ามาจากระบบเบรกหรือสภาพถนน หรือสภาพของคนขับ อย่างไรก็ตาม การสอบสวนจะเร่งให้เร็วที่สุด เพราะจะต้องสอบพยานอีกหลายปาก ซึ่งหากพบว่าประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก็จะแจ้งข้อหาต่อไป
EmoticonEmoticon