". August 2025 - reaksmey.net

พบแล้ว 6 ศพ ติดในรถจมน้ำ ดับสลดทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูก เหลือรอดคนเดียวไม่ได้ไปด้วย



พบแล้ว 6 ศพ ติดในรถจมน้ำ ดับสลดทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูก เหลือรอดคนเดียวไม่ได้ไปด้วย

เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ รายงานกรณีคนหายทั้งครอบครัว 6 คน ในประเทศมาเลเซีย หลังจากพ่อ แม่ และลูก ๆ อีก 4 คน มาค้างคืนกันที่บ้านญาติ แต่กลับหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาขณะเดินทางกลับบ้านของพวกเขาในช่วงเช้าตรู่ จนกระทั่งล่าสุด มีความคืบหน้า พบว่าทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว ภายในรถเก๋งที่จมอยู่ก้นแม่น้ำโกรก ซึ่งอยู่นอกเมืองจีตรา ของมาเลเซีย

โดยก่อนหน้านี้ นูร์ อัดเลียห์ ชูฮาดา อิชัค หญิงวัย 20 ปี ได้ออกมาประกาศตามหาพี่ชายวัย 32 ปี พร้อมกับภรรยาและลูกของเขา หลังจากที่พี่ชายพาครอบครัวมาค้างคืนที่บ้านของเธอ ซึ่งปกติพี่ชายจะมาค้างคืนที่บ้านของเธอเสมอ และมักจะเดินทางกลับไปบ้านภรรยาในช่วงเช้ามืด ก่อนที่เขาจะออกไปทำงานเป็น รปภ.

กระทั่งวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 กรกฎาคม) ครอบครัว 6 คนเดินทางออกจากบ้านของเธอไปตามปกติ ในเวลา 05.30 น. แต่นับจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นพวกเขาอีกเลย ตอนแรกเธอคิดว่าทั้งหมดกลับไปถึงบ้านที่อยู่ต่างเมืองแล้ว แต่หลังจากนั้นแม่ยายของเขากลับโทร. มา บอกว่าทั้ง 6 คนยังไม่ถึงบ้าน ทำให้เธอเริ่มกังวล


จึงมีรายงานว่าทั้งครอบครัว 6 คน ถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋งที่จมอยู่ใต้แม่น้ำ โดยเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยได้ทำการเก็บกู้ศพของพ่อวัย 32 ปี แม่วัย 31 ปี พร้อมลูก ๆ อายุ 9 ขวบ 8 ขวบ 7 ขวบ และ 6 เดือน นำส่งโรงพยาบาล


ทั้งนี้ ร่างของทั้ง 6 คน จะถูกฝังไว้ไม่ไกลจากจุดที่ฝังร่างของลูกชายวัยทารก ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ญาติ ๆ เพื่อนบ้าน และคนรู้จักต่างเดินทางมาร่วมพิธีศพมากกว่า 500 คน

ขอบคุณข้อมูลจาก World of Buzz

แม่ทัพภาค2 พูดแล้ว ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ เตรียมทำอะไร ยิ่งฟังยิ่งรักท่าน



วันที่ 17 ส.ค. 2568 เวลา 10.09 น. ณ วัดสวนธรรมปีติ ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีการจัดพิธีมหามงคล ฉลองประกาศจัดตั้ง วัดสวนธรรมปีติ พร้อม ยกเสาเอก-เสาโท เจดีย์โนนสาวเอ้ ท่ามกลางความศรัทธาของคณะสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก




ซึ่งงานนี้ลูกศิษย์คนดังของ หลวงปู่ศิลา สิริจันโท อย่างท่าน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ พบมีประชาชนและเหล่า FC มารอต้อนรับเพื่อมอบกำลังใจ และขอบคุณที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มความสามารถจำนวนมาก โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้นำพระพุทธรูปโบราณมาถวายหลวงปู่ศิลาด้วย

สำหรับพิธีวันนี้ มีพระมหาเถระร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง โดยพิธีมี นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว




และด้าน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยังกล่าวว่า หลังจากเกษียณอายุราชการก็จะไปทำหน้าที่เป็นทหารกองหนุน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศไทย ส่วนตำแหน่งทางการเมืองไม่ขอรับ ขอทำหน้าที่ดูแลประเทศชาติในส่วนที่เราสามารถทำได้


ทั้งนี้ ขณะทำพิธียกเสาเอกก็เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด และมีบรรดาแมลงปอที่เปรียบเสมือนนางฟ้าบินเข้ามาในบริเวณมณฑลพิธีจำนวนมากให้เห็นเป็นอัศจรรย์



อย่างไรก็ตามในงานยังมี อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) ประจำปี พ.ศ. 2559 ฉายา จอมยุทธ์ขลุ่ย มาบรรเลงเพลงขลุ่ยถวายแด่หลวงปู่ศิลา และให้ผู้เข้าร่วมงานได้ฟัง และคุณปุ่น สุธัญญา บุญสูง ประธานบริษัทตรีเพชรอีซูซุ ยังได้มอบเหรียญทองคำพระโหฬาร เป็นเหรียญของคุณเอกมอบให้ท่านแม่ทัพภาคที่ 2 นำไปประมูลนำรายได้ไปช่วยทหารชายแดนอีกด้วย

เตรียมตัวรับมือ กรมอุตุฯ ประกาศพื้นที่สีแดง เสี่ยงภัยพายุฝนฟ้าคะนองถล่มวันนี้



วันที่ 17 ส.ค. 2568 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย




พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-15 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชัยภูมิ บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต ขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ลุงคลั่งยา กระหน่ำฟันหลานสาวนักศึกษาพยาบาล ชั้นปีที่ 3 เสียชีวิตสลด คนเป็นย่าใจสลาย เผยลูกชายเคยติดยา อิจฉาหลานแย่งความรัก



เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เมื่อไปถึงพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเพศหญิง ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส. ปาริชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีตรัง มีอาการหมดสติ จับชีพจรได้ มีแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะหลายแผล มีเลือดออกจำนวนมาก

จนท.พยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิต และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลห้วยยอดอย่างเร่งด่วน แพทย์พยายามยื้อชีวิตอย่างเต็มความสามารถ แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความโศกเศร้าเสียใจต่อครอบครัวญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะย่า เพราะน้องกำลังจะมีอนาคตไกล


จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายสุริยัณห์ อายุ 44 ปี มีศักดิ์เป็นลุงของผู้เสียชีวิต ก่อเหตุโดยใช้อาวุธมีดพร้าในกระหน่ำฟันหลานสาว หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมกับมีดพร้าที่ใช้ก่อเหตุ

จากการสอบถาม นางชนาภา อายุ 67 ปี ย่าของผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนมีอาชีพขายผัก ตอนเกิดเหตุออกจากบ้านไปช่วยลูกชายอีกคนขายหมูอยู่ที่ตลาด เพราะว่าลูกชายเพิ่งเริ่มขายยังคิดเงินไม่เก่ง จึงออกไปช่วย ส่วนคนก่อเหตุก็เป็นลูกชายตนเอง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของหลานสาว เพราะเขาอิจฉาหลานสาวว่าได้รับความรัก ปกติที่บ้านจะอยู่กัน 4 คน คือ ตนที่เป็นย่า สามีตนที่เป็นปู่ ลูกชายซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุที่เป็นลุง และหลานสาวที่เสียชีวิต แต่ช่วงหลังมีลูกชายอีกคนมาอยู่ด้วย จึงรวมเป็น 5 คน ส่วนผู้ก่อเหตุเคยติดยาเสพติด และทราบว่าเลิกแล้ว แต่ไม่ได้ทำงานการอะไร

ย่าผู้เสียชีวิต บอกทั้งน้ำตาอีกว่า ผู้ก่อเหตุเขาฝังใจเรื่องว่าตนไม่รัก ตนให้ความรักเอ็นดูและเอาใจใส่ส่งเสียให้หลานเรียนหนังสือ ไม่รัก ไม่สนใจเขา ซึ่งตนก็เคยพูดทำความเข้าใจว่า ไม่ใช่ว่ารักหลานคนเดียว แต่ก็รักเขาด้วย แต่หลานเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ตัวเขาเองก็พร้อมจะส่งจะให้เรียน แต่ไม่เรียนเอง ตนเองไม่มีอะไร บ้านที่อยู่ก็อยู่ในเขตรถไฟ ไม่มีสมบัติอะไรจะให้หลาน ก็มีแค่การศึกษาที่จะให้ เพราะคิดว่าหากย่าเสียไป หลานจะได้มีวิชา หลานก็เป็นหลานอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่น้องอายุประมาณ 11-12 ขวบ พ่อแม่เขาหย่าร้างกัน ทำไมจะต้องอิจฉาหลาน ก็เคยพูดกับเขา ตนเองและปู่ได้ช่วยกันทำงานส่งหลานเรียน ตอนนี้เรียนพยาบาลชั้นปีที่ 3 แล้ว ใกล้จะจบแล้ว แต่หลานก็มาจากไปก่อน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุได้วิ่งหนีขึ้นเขาในวัดคลองมวน ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง นำกำลัง อส. เร่งปิดล้อมติดตามจับกุมมาดำเนินดี เพราะเป็นบุคคลอันตราย

ยิ้มแก้มแตก แม่ปราณี ถูกรางวัลที่ 1 รายแรกมาแล้ว



ออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการประกาศผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2568 โดยผลการออกรางวัลมีดังนี้ รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท 994865 เลขหน้า 3 ตัว 2 รางวัลๆละ 4,000 บาท 602, 247 เลขท้าย 3 ตัว 2 รางวัลๆละ 4,000 บาท 834, 989 เลขท้าย 2 ตัว 1 รางวัลๆละ 2,000 บาท 63 รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 มี 2 รางวัลๆละ 100,000 บาท 994864, 994866




อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 16/8/68

ล่าสุด โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ได้โพสต์ภาพผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 พร้อมระบุข้อความว่า รางวัลที่1 12ล้าน ยินดีกะแม่ปราณี ด้วยค่ะ




ภาพจาก ปราภัชรา ตงบุญชัย




หลังจากที่ได้โพสต์ภาพดังกล่าวออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบเพิ่มเติม คาดว่าผู้โชคดีอยู่จังหวัดอุดรธานี

เรียบเรียง สยามนิวส์

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงประกอบพิธีสมรสเท่าเทียมพระราชทาน ให้ข้าราชการ



วันที่ 8 ส.ค. 68 เพจเฟซบุ๊ก HRH Princess Sirivannavari Nariratana Rajakanya ได้เผยแพร่พระฉายาลักษณ์ พร้อมระบุข้อความว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

พระกรุณาทรงประกอบพิธีสมรสพระราชทาน นายศุภกร โตสมตน ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ระดับชำนาญงาน สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการต่างประเทศ กับ นายระพี สุขธงไชยกูลพนักงานมหาวิทยาลัย สังกัด คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังความปลาบปลื้มแก่ครอบครัว และเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูล นับเป็นคู่สมรสเท่าเทียมคู่แรกที่ได้รับพระราชทานพิธีสมรสอย่างเป็นทางการ ณ เรือนองุ่น วังศุโขทัย

การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเข้าใจและยอมรับในความหลากหลายทางเพศ ของกลุ่มคน LGBTQ+ เสมอมาว่า ทุกคนควรมีสิทธิเท่าเทียมกันในการสร้างครอบครัว และใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข

จนกระทั่งมีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นกฎหมายที่รับรองสิทธิในการจดทะเบียนสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน โดยพิธีสมรสพระราชทานครั้งนี้ นับเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก และการยอมรับในความหลากหลายอย่างเป็นทางการ

มาแล้ว! เลข พญาบึ้ง เปิดดูเห็นชัด



ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว สำหรับการประกาศผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เรียกว่าในตอนนี้มีชาวนักเสี่ยงโชคเริ่มออกหาเลขกันแล้ว เช่นเดียวกันกับที่ชาวบ้านในจังหวัดอ่างทอง ที่ได้มีการขอเลขจาก พญาบึ้ง เหมือนทุกคร้งที่ผ่านมา




โดยเขาได้นำดอกไม้ธูปเทียนพร้อมกระดาษ 0-9 จำนวน 3 ชุด แล้วได้ทำจุดธูปบอกเล่า ขอตัวเลขเสี่ยงทายจากพญาบึ้งตามความเชื่อ เพื่อหาตัวเลขไปเสี่ยงดวง


หลังจากที่ได้นำกระดาษที่เขียนตัวเลขไว้ทั้ง 3 ชุด หย่อนลงไปในรูพญาบึ้ง พบว่า พญาบึ้ง ได้คีบตัวเลขนำมาวางไว้ที่ปากรู ครั้งแรก จำนวน 2 ใบ เปิดดูเป็นตัวเลข 42 และครั้งที่สอง จำนวน 1 ใบ เป็นเลข 3 และครั้งที่ 3 จำนวน 2 ใบ เปิดดูพบเป็นตัวเลข 90 ตีเป็นตัวเลขเสี่ยงทาย 423 – 90 นำไปเสี่ยงดวงกันต่อไป

เรียบเรียง สยามนิวส์

กองทัพภาค 2 ประกาศเตือน! ขอประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ



กองทัพภาค 2 ประกาศเตือน! ขอประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ

เพจเฟซบุ๊ก กองทัพภาคที่2 ได้โพสต์ข้อความระบุว่า

ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญของสถานการณ์ถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 14.00 น.

ภาพรวมสถานการณ์ ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ไม่มีการปะทะ ฝ่ายเรายังคงเตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยึดมั่นตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมา




การดูแลผู้อพยพ ส่วนราชการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ยังคงให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกในพื้นที่รวบรวมพลเรือนทั้ง 307 จุด ใน 4 จังหวัด ลดลงจากวันที่ 7 สิงหาคม 49 จุด ปัจจุบันมียอดรวม 57,698 คน ลดลงจากวันที่ 7 สิงหาคม 4,722 คน ทั้งนี้ฝ่ายปกครองได้จัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เข้าดูแลบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนที่อพยพ อย่างต่อเนื่อง

จิตอาสาพระราชทาน ดูแลและช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ 4 จังหวัด (จ.บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อุบลราชธานี) อำนวยความสะดวกประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราว และช่วยขนย้ายสิ่งของ โดยมีจิตอาสา 904 156 นาย, จิตอาสาพระราชทาน จิตอาสาภาคประชาชน 3,890 และ รด.จิตอาสา 298 นาย เข้าช่วยเหลือ การจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ในพื้นที่ 4 จังหวัด (บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อุบลราชธานี) มีโรงครัวพระราชทาน 15 แห่งข้อเน้นย้ำ ปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์จากหน่วยงานความมั่นคงเป็นหลัก




ขอบคุณหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถในการให้ความช่วยเหลือ ดูแล และอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน ความร่วมมือของทุกหน่วยงาน ทั้งฝ่ายความมั่นคง หน่วยแพทย์ หน่วยกู้ภัย ตลอดจนหน่วยงานด้านการปกครองและการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม มีส่วนสำคัญในการสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ

แผ่แม่เบี้ย ให้โชค! หนุ่มโพสต์ งูจงอางตัวใหญ่ เลื้อยขึ้นบนรถ แผ่แม่เบี้ย



แผ่แม่เบี้ย ให้โชค! หนุ่มโพสต์ งูจงอางตัวใหญ่ เลื้อยขึ้นบนรถ แผ่แม่เบี้ย

แผ่แม่เบี้ย ให้โชค! หนุ่มโพสต์ งูจงอางตัวใหญ่ เลื้อยขึ้นบนรถ แผ่แม่เบี้ย

แผ่แม่เบี้ย ให้โชค! หนุ่มโพสต์ งูจงอางตัวใหญ่ เลื้อยขึ้นบนรถ แผ่แม่เบี้ย

แผ่แม่เบี้ย ให้โชค! หนุ่มโพสต์ งูจงอางตัวใหญ่ เลื้อยขึ้นบนรถ แผ่แม่เบี้ย

สลด! รถบรรทุกหกล้อเสียหลัก ข้ามเกาะกลางถนน พุ่งชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บระนาว



เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 15 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ เสียหลักพุงข้ามเกาะกลางถนนมาชนกับรถตู้นักเรียน มีคนบาดเจ็บ และเสียชีวิต หลายราย บนถนนสายศรีสะเกษ - อุทุมพรพิสัย ฝั่งขาออกจากตัวเมืองศรีสะเกษ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 6 ล้อ คันก่อเหตุที่ถูกดัดแปลงตรงกระบะทำเป็นคอกโครงเหล็ก ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 82-2682 ศรีสะเกษ สภาพหน้ารถฝั่งขวาพังยับ ส่วนคนขับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เร่งส่งโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว


r /
ห่างออกไปเล็กน้อย พบรถตู้รับส่งนักเรียน สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน นข 5713 ศรีสะเกษ สภาพรถฝั่งขาวพังเสียหาย กระจกแตกเสียหาย มีผู้บาดเจ็บประมาณ 11 ราย เสียชีวิตภายในรถ 2 ราย เป็น ชาย 1 หญิง 1 ทราบชื่อต่อมา คือ ด.ช.กรวิชญ์ อายุ 9 ปี และ ด.ญ.ณัฐลักษณ์ อายุ 13 ปี ซึ่งผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเร่งนำตัว และนำร่าง ส่งโรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย อย่างเร่งด่วน




สอบถาม นายคำไพร (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถตู้รับส่งนักเรียน เล่าว่า ตนขับรถตู้รับนักเรียนมาจากตัวเมืองศรีสะเกษ เพื่อจะไปส่งนักเรียนที่ อ.ราษีไศล - อ.ศิลาลาด ระหว่างทางตอนขับรถมาเรื่อยๆ บนถนนสายศรีสะเกษ-อุทุมพร อยู่ดีๆ ก็มีรถบรรทุกข้ามเลนมาชนรถตนดังตึ้งจนรถหมุน จังหวะนั้นพยายามบังคับรถไม่ให้เสียหลักพลิกคว่ำ ก่อนจะมาหันไปดูเด็กนักเรียน ก็พบว่ามีเด็กนักเรียนบาดเจ็บหลายราย และมีเสียชีวิตภายในรถ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ




ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รถติดยาวเป็นกิโลเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งเคลื่อนย้ายรถยนต์ที่เกิดเหตุออกจากจุดที่เกิดเหตุก่อน เพื่อที่รถคันอื่นจะได้สัญจรไปมาได้ตามปกติ ก่อนจะได้ไปสอบสวนคนขับรถบรรทุก และผู้บาดเจ็บรายอื่น ถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป

เปิดใจครั้งแรก พี สะเดิด ต่อสู้โรคมะเร็งเต้านม โอกาส 1 ในล้าน แต่ดันเป็นเรา



เปิดใจครั้งแรก พี สะเดิด ต่อสู้โรคมะเร็งเต้านม โอกาส 1 ในล้าน แต่ดันเป็นเรา




เมื่อวันที่ 11 ส.ค.68 นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พี สะเดิด ได้ไปออกรายการ โต๊ะหนูแหม่ม โดยเจ้าตัวเปิดเผยในรายการว่า ต่อสู้และเผชิญกับโรคร้ายอย่างมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ซึ่งโอกาสเกิดน้อยในเพศชาย พบผู้ป่วย 1 ในล้าน โดยพี สะเดิดอัพเดตถึงอาการป่วยมะเร็งเต้านม ว่า ต้องย้อนไปตอนที่ป่วยผมไม่ค่อยได้บอกใคร ป่วยมาเกือบ 20 ปีแล้ว พ่อแม่พี่น้องผมก็ไม่ได้บอกใครเลย



เพราะอย่างแรกเลย คือ กลัวเค้าเป็นห่วง ส่วนเรื่องมะเร็งที่ว่านั้นตอนแรกผมก็มีอาการเหมือนเจ็บที่หน้าอก เจ็บที่ตรงนม เวลาไปทัวร์คอนเสิร์ตเราก็รู้สึกว่าถ้ามันเจ็บที่นม แล้วก็เนื้อมันก็โตขึ้นมาขนาดที่เราทัวร์คอนเสิร์ต ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็เป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอด 6 เดือนผมจะตรวจทีนึงเป็นประจำอยู่แล้ว พอเช็กเลือดดู เช็กเซลล์ดู ก็คือมีเชื้อมะเร็ง โอกาสน้อยนักที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน หวยมาออกที่เรา

ตอนแรกที่ทราบว่าเป็นมะเร็ง ตกใจกลัว กลัวตาย ณ เวลานั้นมีตัวเลือกอยู่ 2 ทาง ที่จะผ่าเลยมั้ย เอาให้จบเลยมั้ย เราจะได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตต่อได้ หรือว่าจะรอดูก่อน เพราะเราก็มีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือ พระสายป่า ก็เลยตัดสินใจไปหาครูบาอาจารย์ก่อน ถามท่านว่าผมเป็นมะเร็งผมกลัว พระอาจารย์มีอะไรแนะนำบ้างมั้ยครับ ขอกำลังใจหน่อย ท่านก็บอกว่ากลัวทำไมความตาย เราตายมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติแล้ว ซึ่งพูดแบบนี้มันไม่ขำนะ

แต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระป่า ท่านก็เปรียบเทียบว่าถ้าชาตินี้ทำดีแล้วก็จะไปกลัวอะไร ตายก็ตายไปชาติหน้าเกิดใหม่เดี๋ยวก็ดีเอง ก็เลยได้กำลังใจจากท่านคิดว่าตายเป็นตาย ด้วยความศรัทธาของผมเชื่อในคำพูดของท่าน นั่นคือปาฏิหาริย์สิ่งแรกที่ผมได้เจอ ทำให้ผมคิดได้ว่าผมต้องไม่กลัว พอมันไม่กลัวแล้วมันก็พร้อมจะปรับปรุงตัวกับทางโลก กินของที่มีประโยชน์ อะไรที่ใกล้สารพิษเราหลีกห่างให้ไกล เปลี่ยนวิธีคิดหมดเลย
ผมไปเช็กร่างกายอยู่ทุกระยะ เชื่อมั้ยว่าค่ามะเร็งมันดีขึ้น จาก 300-400 มันค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 ไม่มีค่ามะเร็งเลย ผมไม่ได้บอกหมอ ว่าผมไม่ได้กินยาของหมอ ก็ต้องรอดูหน่อย เพราะเราไม่อยากผ่า ทางแพทย์ปัจจุบันเราก็ทำควบคู่กันไป มันก็ต้องพิสูจน์กันดู


หมอบอกสาเหตุมะเร็งเต้านมเกิดขึ้นได้มาจากการปฏิบัติตัวครับ ในชีวิตประจำวันเรานอนไม่เป็นเวลา กินไม่เป็นเวลา เราใช้ชีวิตผิดเพี้ยนจากคนปกติเลย เราก็เครียดทำงานหนัก ตะบี้ตะบันไม่สนใจตัวเอง ทุกอย่างมันก็เป็นโทษกับร่างกาย เลือดมันก็เป็นกรดตามที่หมออธิบาย ตอนนี้ปกติแล้ว ก้อนๆที่เคยมีก็ยุบไปเรียบร้อย ก้อนเท่าลูกมะนาวเลยนะครับ ลูกใหญ่มาก




ทั้งนี้ เจ้าตัวได้กล่าวอีกว่า หลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ ท่านละสังขารแล้ว ท่านมีผลกับความคิดเรามาก ท่านให้เราอยู่กับปัจจุบัน คนเรามักจะมองในอนาคตส่วนใหญ่ จริงๆอนาคตมันก็ดีแหละมันเป็นส่วนนึงที่เราต้องวางแผน แต่ถ้าเราไม่ทำวันนี้ พรุ่งนี้เราก็อาจจะไม่มีโอกาสลืมตามาทำได้ ท่านมักจะสอนลูกศิษย์ลูกหาท่านแบบนี้

สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 4 เรื่องพระอาการ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา



วันที่ 15 สิงหสคม 2568 แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่องสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรรราชธิดา ทรงพระประชวร ฉบับที่ 4




โดยระบุว่า ตามที่สำนักพระราชวัง ได้มีแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย และทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช2565 ความทราบทั่วกันแล้วนั้น



คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา ฯ ได้รายงานเพิ่มเติมว่า คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถ และเครื่องมือเพื่อช่วยการทำงานของพระปัปผาสะ (ปอด) และพระวักกะ (ไต) มาโดยตลอด คณะแพทย์ตรวจพบการติดเชื้อเป็นครั้งคราว ซึ่งได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะเพื่อรักษาพระอาการติดเชื้อดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม พุทธศักราช 2568 เป็นต้นมา

คณะแพทย์ตรวจพบว่าทรงมีการติดเชื้อที่รุนแรง และเข้าในกระแสพระโลหิต ทำให้ต้องถวายพระโอสถปฏิชีวนะหลายขนานร่วมกัน รวมทั้งถวายพระโอสถ กระตุ้นความดันพระโลหิต เพื่อรักษาความดันพระโลหิตให้คงที่ คณะแพทย์ยังคงถวายการรักษาอย่างเต็มที่ และติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป

จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง 15 สิงหาคม พุทธศักราช 2568

เตรียมรับมือ กรมอุตุฯ ประกาศพื้นที่สีแดง เสี่ยงภัยพายุฝนฟ้าคะนองถล่มวันนี้



วันที่ 15 ส.ค. 2568 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่ง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้


ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบังลำภู อุดรธานี สกลนคร ชัยภูมิ ขอนแก่น และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร






ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)


มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต ขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

“ทัพฟ้าไทย” ประกาศจุดยืนล่าสุดแล้ว ชาวเน็ตไลก์สนั่น หลังอ่านจบ



ทัพฟ้า ยืนหยัด เพื่อชาติไทย กองทัพอากาศสนับสนุนปฏิบัติการร่วม ปกป้องอธิปไตยไทย – สร้างเงื่อนไขสู่สันติภาพอย่างยั่งยืน

กองทัพอากาศไทยได้ปฏิบัติภารกิจสนับสนุนกองทัพบกอย่างต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 24 – 28 กรกฎาคม 2568 ในสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ลดความเสี่ยงต่อพลเรือน และสร้างเงื่อนไขเชิงยุทธศาสตร์ที่เอื้อต่อการเจรจาสันติภาพ

ภายใต้แผนยุทธการร่วม กองทัพอากาศได้จัดกำลังทางอากาศจากฝูงบิน F-16 และ Gripen เข้าสนับสนุนภารกิจภาคพื้นในลักษณะการโจมตีเป้าหมายทางทหารที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของไทยอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะการทำลายคลังอาวุธ และศูนย์ควบคุมการรบของฝ่ายตรงข้ามพร้อมปฏิบัติการทั้งกลางวันและกลางคืน โดยประเมินผลด้วยระบบข่าวกรองและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

การใช้กำลังทางอากาศของไทยดำเนินไปอย่างถูกต้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยอาศัยสิทธิในการป้องกันตนเองตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ และยึดหลักความได้สัดส่วน ความจำเป็น และการแยกแยะเป้าหมายทางทหารจากพลเรือนอย่างชัดเจน

ภารกิจในครั้งนี้เกิดจากการเตรียมความพร้อมอย่างเป็นระบบ ทั้งด้านการฝึก การบูรณาการระบบบัญชาการและควบคุมร่วม และการเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการตัดสินใจและลดความสูญเสีย

กองทัพอากาศยังคงยึดมั่นในพันธกิจเพื่อความมั่นคงของชาติ และขอขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วนที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนภารกิจของทหารอากาศไทยในห้วงเวลาสำคัญนี้

สำนักงานโฆษกกองทัพอากาศ

แม่ทัพภาค 2 เผย ยังไม่พร้อมเปิดด่านชายแดน ลั่น ปิดยันเกษียณฯ



14 สิงหาคม 2568 พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ กรณีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารฝ่ายกัมพูชา โดยอีกฝ่ายตอบรับแล้วว่าจะมีการประชุมฝ่ายเลขานุการช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ และจะหารือประเด็นต่างๆ บริเวณแนวเขตชายแดนฝั่งไทย เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย

พลโทบุญสิน ระบุว่า พื้นที่ 11 จุดที่ฝ่ายไทยควบคุมอยู่จะไม่ถอนทหาร ยังคงตรึงกำลังและวางลวดหนามจำนวนมาก พร้อมยืนยันว่าพื้นที่ปราสาทตาควายเป็นของไทย ต้องหาวิธีนำกลับมาไม่ว่าจะด้วยช่องทางระหว่างประเทศหรือภายในประเทศ

สำหรับการจัดการทุ่นระเบิด ได้มีการปรับแนวทางลาดตระเวนโดยใช้เครื่องมือพิเศษและโดรนตรวจสอบ รวมถึงวางลวดหนาม โดยประเด็นทุ่นระเบิดจะถูกหยิบยกในที่ประชุม RBC เพราะผิดเงื่อนไขในอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งกัมพูชาเป็นภาคี หากไม่ยอมรับไทยจะประท้วงและสื่อสารให้สากลรับทราบ รวมถึงชี้แจงต่อสังคมโลกและให้ยูเอ็นติดตาม พร้อมให้ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) เข้ามาช่วย หากกัมพูชาปฏิเสธว่าไม่ได้วางทุ่นระเบิด ไทยก็เตรียมการชี้แจงและพร้อมใช้กำลังหากจำเป็น

เมื่อถามถึงสิทธิ์ป้องกันตัว พลโทบุญสินกล่าวว่านั่นเป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนตนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติและไม่ประมาท โดยย้ำว่าไม่มีการถอนกำลัง อาวุธยังคงอยู่เช่นเดิม และเห็นว่ากัมพูชายังไม่ลดการใช้ทุ่นระเบิด การใช้รถกวาดทุ่นระเบิดแม้ได้ประโยชน์แต่บางจุดเข้าไม่ถึงเพราะป่าทึบ ต้องใช้วิธีอื่น

ในส่วนการเปิดด่าน พลโทบุญสินยืนยันว่าฝ่ายไทยยังไม่พร้อม และกล่าวทีเล่นทีจริงว่า ปิดยันเกษียณฯ

กระบะซิ่งฝ่าไฟแดงพุ่งชนจยย. ดับชีวิต 3 พ่อแม่ลูก กลางสี่แยก



วันที่ 14 ส.ค.2568 พ.ต.ท.มานิตย์ บุญแต่ง สารวัตรสอบสวน สภ.พนมสารคาม ได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์ฝ่าไฟแดงชนรถจักรยานยนต์ บริเวณสี่แยกไฟแดงพนมสารคาม เมื่อทราบเรื่องจึงประสานหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพนมสารคาม และหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม เข้าร่วมตรวจสอบและให้การช่วยเหลือทันที




โดยที่เกิดเหตุพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำเทา หมายเลขทะเบียน 1 กด 9592 ฉะเชิงเทรา สภาพพังยับขาด 2 ท่อน ห่างออกไปพบร่าง เด็กหญิง 1 ราย อายุ 4 ปี นอนอยู่บนฟุตปาธ ชีพจรอ่อนเจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งทำซีพีอาร์เพื่อช่วยเหลือ



บริเวณใกล้เคียงกัน หญิงอีก 1 ราย ชื่อ นางสาวอรอุมา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเด็ก นอนเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุบริเวณริมฟุตปาธ และไม่ห่างกันมาก พบชาย 1 ราย ชื่อ นายอานนท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี อาการสาหัส เป็นพ่อของเด็ก เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือ และนำสองคนพ่อลูกส่งโรงพยาบาลพนมสารคาม

ใกล้ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้ารีโว่ สีเทา หมายเลขทะเบียน กล 3897 ฉะเชิงเทรา สภาพด้านหน้าซ้ายขาดพังยับ จอดอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดง



จากภาพกล้องวงจรปิดเห็นว่า รถจักรยานยนต์ 3 พ่อแม่ลูก นั้น อยู่ในระหว่างไฟเขียว และกำลังจะขี่ข้ามเลน แต่ในขณะนั้น รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับมาอย่างรวดเร็วและฝ่าไฟแดงมาพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของ 3 พ่อแม่ลูกอย่างเต็มแรง จนเกิดประกายไฟแลบ ก่อนกระเด็นตกพื้นทำให้มีผู้บาดเจ็บจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุดังกล่าว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือ 2 พ่อลูกที่โรงพยาบาลพนมสารคามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เสียชีวิตทั้งคู่ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งทำการสอบสวนและตรวจสอบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ด่วน!! มทภ.2 เตรียมมาตรการตอบโต้เขมร ชี้ยั่วยุ วางทุ่นระเบิด ผิดเงื่อนไขหยุดยิง



จากเหตุการณ์ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที อายุ 48 ปี

วันที่ 12 ส.ค. 2568 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางกับระเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทยเป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว

พล.ท.บุญสิน กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิดถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล โดย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ขอข้อมูลเร่งด่วนเพื่อทำการประท้วงฝ่ายเขมรต่อไป

แม้จะมีการประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ครั้งต่อไป ไทยจะนำเรื่องทุ่นระเบิดนี้ไปหารือ แต่เชื่อว่ากัมพูชาคงไม่ยอมรับเหมือนที่เขาพูดใน GBC เมื่อเขาปฏิบัติเรื่องนี้ เขาก็ไม่พูดถึง พล.ท.บุญสิน กล่าว

เมื่อถามว่า ทางกัมพูชาไม่ยอมร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หากทหารไทยเหยียบระเบิดแบบนี้ต่อไป พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ถ้าเหตุการณ์สงบ เราก็ต้องให้ศูนย์เก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เข้ามาดำเนินการเก็บกู้ แต่ถ้าไม่สงบก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราต้องตอบโต้ด้วยกำลัง

เมื่อถามอีกว่า เราได้เจรจาหยุดยิงไปแล้วมีผลอะไรหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องหน้างาน การเจรจาก็เจรจาไป เรามีสิทธิ์ปกป้อง และคุ้มครองกำลังพลของเราเช่นกัน

ทางเราจะมีการปรับแผนในการลาดตระเวน เพื่อให้กำลังพลจะได้ไม่ต้องไปเสี่ยงกับทุนระเบิดที่ทางเขมรได้วางไว้ ทางเราเพิ่มการใช้กล้องวงจรปิด และใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าทำการเคลียร์เส้นทางลาดตระเวนแทนการใช้บุคคลในการควบคุมแต่ละพื้นที่ เป็นการป้องกันกำลังพล นอกจากนี้จะเพิ่มการเฝ้าตรวจในระยะไกลขึ้นมาอีกสเต็ป พล.ท.บุญสิน

ระกาศ “กัมพูชา” หมดสัญญาจ้างแต่กลับไม่ได้ อยู่ต่อได้ 6 เดือน



ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๘ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๒

สัญญาจ้างแต่กลับไม่ได้ อยู่ต่อได้อีก 6 เดือน



โดยที่ประเทศไทยและประเทศต้นทางของคนต่างด้าวซึ่งมีสัญชาติกัมพูชา ได้ยกระดับมาตรการควบคุมการผ่านแดนในทุกจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เป็นเหตุให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักรในลักษณะไป-กลับ หรือตามฤดูกาล บริเวณชายแดนตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ครบวาระการจ้างงานหรือการอนุญาตให้พำนักในเขตพื้นที่ชายแดนสิ้นสุดลง แต่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้ สมควรให้คนต่างด้าวดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานต่อไปได้ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๘๗/๒๕๕๗ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ ลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ คนต่างด้าวซึ่งได้รับการยกเว้นให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงานตามประกาศนี้ หมายถึง คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ซึ่งถือบัตรผ่านแดนตามมาตรา ๑๓ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ทั้งที่ยังไม่หมดอายุหรือหมดอายุแล้ว ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และการอนุญาตให้พำนักในเขตพื้นที่ชายแดนสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๘ แต่ไม่สามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาใหม่ได้

ข้อ ๒ ให้คนต่างด้าวตามข้อ ๑ อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงานต่อไปได้อีกเป็นระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันที่ประกาศนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือจนกว่ามาตรการควบคุมการผ่านแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชากลับสู่ภาวะปกติ ตามแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน

ให้คนต่างด้าวซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษตามวรรคหนึ่ง รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองครั้งแรกภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ประกาศนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นให้รายงานตัวทุกสามสิบวันนับแต่วันสุดท้ายของการรายงานครั้งก่อน โดยอาจรายงานตัวล่วงหน้าได้ไม่เกินเจ็ดวัน หลักเกณฑ์และวิธีการรายงานตัวให้เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด

ข้อ ๓ มิให้นำมาตรา ๑๒ (๑๐) และมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ และคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ ๑/๒๕๕๘ เรื่อง การไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาในราชอาณาจักร ลงวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ มาใช้บังคับแก่คนต่างด้าวตามประกาศนี้

ข้อ ๔ เมื่อสิ้นสุดการอนุญาตหรือการอนุญาตเป็นอันสิ้นผลตามข้อ ๒ วรรคหนึ่ง ให้คนต่างด้าวดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรได้อีกเจ็ดวันเพื่อเตรียมการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

ข้อ ๕ การยกเว้นให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงาน ตามประกาศนี้เป็นอันสิ้นผลก่อนครบระยะเวลาตามข้อ ๒ เมื่อเกิดกรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

(๑) คนต่างด้าวต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ความผิดซึ่งได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๒) มาตรการควบคุมการผ่านแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชากลับสู่ภาวะปกติ
(๓) คนต่างด้าวไม่ดำเนินการตามประกาศนี้
(๔) คนต่างด้าวเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต
(๕) การอนุญาตให้ทำงานสิ้นสุดลงตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามมาตรา ๖๔ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๘

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘

ภูมิธรรม เวชยชัย
รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน นายกรัฐมนตรี

ภูมิธรรม เวชยชัย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

โอ้พระเจ้า!! ครูฝึกวาฬเพชฌฆาตถูกกลืนกินขณะแสดง – ชมวิดีโอสุดช็อก!



โอ้พระเจ้า!! ครูฝึกวาฬเพชฌฆาตถูกกลืนกินขณะแสดง – ชมวิดีโอสุดช็อก!




ในสารคดีที่ตื่นเต้นเร้าใจเรื่องนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกช่วงเวลาสุดท้ายอันน่าสะพรึงกลัวของ Maris Ellington ผู้ฝึกวาฬเพชฌฆาตที่ Ocean World ความผูกพันอันพิเศษระหว่าง Maris กับสัตว์ทะเลและความมุ่งมั่นของเธอที่มีต่อสวัสดิภาพสัตว์ทะเลต้องจบลงด้วยโศกนาฏกรรมเมื่อการแสดงปกติกับ Cairo ซึ่งเป็นวาฬเพชฌฆาตขนาดใหญ่กลับกลายเป็นเรื่องเลวร้าย พบกับเหตุการณ์ที่น่าตกใจที่เกิดขึ้น ซึ่งเผยให้เห็นด้านมืดของการกักขังสัตว์ทะเลและอันตรายที่ผู้ฝึกต้องเผชิญ เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้จุดประกายให้เกิดการสนทนาเชิงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับจริยธรรมในการใช้สัตว์ทะเลเพื่อความบันเทิงและผลที่คาดไม่ถึงที่เกิดขึ้นเมื่อความไว้วางใจระหว่างมนุษย์กับสัตว์ทะเลอันสง่างามเหล่านี้ถูกทำลาย เรื่องราวของ Maris Ellington ไม่ใช่แค่โศกนาฏกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิธีการที่เราปฏิบัติต่อสัตว์ทะเลในกรงขังอีกด้วย

มรดกของเธอยังคงอยู่เพื่อเตือนใจถึงความจำเป็นในการปฏิรูปและการเคารพธรรมชาติมากขึ้น

ข่าวด่วน!! กองทัพภาคที่ 2 ประกาศด่วน ถึงประชาชน



มีรายงานว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกประกาศชี้แจงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ บริเวณบ้านโนนสีทอง หมู่ 14 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 4 คน อีกทั้งพบระเบิดที่ยังไม่ทำงาน 1 ลูก สาเหตุเกิดจากผู้บาดเจ็บเก็บระเบิดนำไปขายให้พ่อค้ารับซื้อของเก่า ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต แล้วเกิดระเบิดขณะเคลื่อนย้ายระเบิดขึ้นชั่งน้ำหนัก

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพภาคที่ 2 โดยมณฑลทหารบกที่ 21 และกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า เป็นกระสุนขนาด 40 มิลลิเมตร ของอาวุธเครื่องยิงลูกระเบิด M203 ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว นอกจากนี้ ยังตรวจพบกระสุน เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 120 มิลลิเมตร ชนิดส่องแสง ซึ่งได้ทำงานไปแล้ว ไม่มีวัตถุระเบิดภายใน ทั้งนี้ หน่วยฯ ได้ส่งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบระเบิดดังกล่าว และระเบิดที่อาจจะเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุการนำกระสุนมาจากที่ใดนั้น อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ

ทางกองทัพภาคที่ 2 ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา มณฑลทหารบกที่ 21 ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรอบพื้นที่การฝึก ไม่ให้เข้าไปในบริเวณดังกล่าว รวมถึง ไม่ให้ลักลอบนำกระสุนวัตถุระเบิดออกจากพื้นที่การฝึกที่รอการทำลายจากเจ้าหน้าที่สรรพาวุธทหาร ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการในการเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดในทุกครั้งที่มีการฝึก

ดังนั้น ด้วยความห่วงใยในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน จึงขอยกระดับการเตือนภัยเพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ แจ้งเตือนผู้ที่รับซื้อของเก่าไม่ควรรับซื้อของเก่าที่เป็นกระสุนวัตถุระเบิดโดยเด็ดขาด หรือหากผู้ใดพบเห็นวัตถุต้องสงสัยที่คล้ายวัตถุระเบิด ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจ เข้าตรวจสอบและดำเนินการต่อไป

Kategori