". reaksmey.net

RIP😭...ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!



สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี สดุดีทหารกล้า พลีชีพปกป้องชาติ!

เหตุปะทะวันนี้( 8 ธ.ค. 68) จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต สังกัด ร้อย.ม.(ลว.) 6 ถูกอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชายิงใส่ ทำให้เสียชีวิตในฐานขณะปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยครับ

สื่อดัง สหรัฐฯ ตีข่าวแรง เข้าข้างเขมร ชี้ไทยโจมตีก่อน



วันที่ 8 ธันวาคม 2568 ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาปะทุรุนแรงขึ้น หลังเหตุปะทะที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 7 ธันวาคม เมื่อเกิดการยิงตอบโต้กันบริเวณภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน จังหวัดศรีสะเกษ จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย

ต่อมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประกาศอพยพประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาใน 4 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี เพื่อความปลอดภัยจากสถานการณ์ที่อาจขยายวงกว้าง

กระทั่งในช่วงเช้าของวันที่ 8 ธันวาคม 2568 การเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองประเทศยกระดับจนกลายเป็นการปะทะกันอย่างเต็มรูปแบบบนแนวชายแดนอีกครั้ง

ล่าสุดเพจ Army Military Force รายงานว่า สำนักข่าว CNN ของสหรัฐฯ รายงานเข้าข้างเขมร ระบุว่า ไทยได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อกัมพูชา ท่ามกลางการสู้รบระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นการล่มสลายของแผนสันติภาพที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาเป็นประธานเมื่อสองเดือน




เรียบเรียงโดย มุมข่าว

สะพานกรุงเทพถล่ม เสียชีวิต 76 ราย



สะพานกรุงเทพถล่ม เสียชีวิต 76 ราย

สะพานกรุงเทพถล่ม เสียชีวิต 76 ราย

ประกาศด่วน!!เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ปั๊มน้ำมันระเบิด คนแห่หนีระทึก…



ประกาศด่วน!!เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ปั๊มน้ำมันระเบิด คนแห่หนีระทึก…




ด่วน! กองทัพไทย ตอบโต้เต็มอัตราศึก ด้าน F-16 เปิดฉากทิ้งไข่แล้ว


วันที่ 8 ธ.ค. 2568 เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ได้มีการรายงานสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด ระบุว่า ด่วน! ตาควายปะทะแล้ว ก่อนที่ต่อมาจะโพสต์อีกว่า ด่วน! เวลา 07:10 น.- ปะทะแล้วที่ชายแดนอำเภอพนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตามมาด้วย ล่าสุด ด่วน! เวลา 07.20 น. กองทัพบกไทยตอบโต้รบเต็มอัตราศึกในพื้นที่ช่องอานม้า ด้าน F-16 กองทัพอากาศไทยเปิดฉากทิ้งไข่แล้ว!!

ทัพฟ้า ประกาศทันที! น่านฟ้าไทย จะไม่ยอมให้ใครย่ำยี



ทัพฟ้า ประกาศทันที! น่านฟ้าไทย จะไม่ยอมให้ใครย่ำยี




วันที่ 8 ธันวาคม 2568 มีรายงานว่า กองทัพภาค 2 ได้โพสต์จ้อความระบุว่า “ทัพฟ้า ประกาศอธิปไตย น่านฟ้าไทย จะยอมให้ใครย่ำยี”




เรียบเรียง สยามนิวส์

RIP😭...ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!



หนุ่มหลอนยา กลัวแฟนไปมีกิ๊ก ซ้อมแฟนจนเสียชีวิต ภายในห้องพัก และใช้ชีวิตอยู่กับศพนาน 17 วัน ก่อนส่งกลิ่นเหม็นจึงทำให้ความแตก
เหตุเกิดที่ เอื้ออาทร คู้บอน27 ตึก52 ชั้น1 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ
เมื่อวันนี้ 6 ธ.ค. นายสายยนต์ อายุ 56 ปี ผู้เป็นพ่อได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันที่ทราบเหตุคือวันที่ 1 ธ.ค. เวลาประมาณ 15.30น. ขณะตนกำลังทำงานอยู่ มีเพื่อนโทรมาสอบถามว่าได้เจอลูกสาวตนเองบ้างมั้ย ไม่ได้เจอมานานแค่ไหนแล้ว ตนจึงตอบกลับไปว่าไม่ได้เจอลูกมาราว2-3อาทิตย์แล้ว เพื่อนในสายจึงบอกงั้นให้รีบกลับมาด่วนเลย มาที่ตึก52 เพราะเพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นแรงโชยออกมาจากภายในห้อง คาดว่าจะเป็น น.ส.ไอริน วัย19 ปี (น้องยี่) ลูกสาวของตน
จากนั้นจึงได้รีบกลับมาที่ เอื้ออาทร ตึก52 ห้องของ นายธนาธัญ สติปัญญา วัย34ปี แฟนหนุ่มของน้องยี่ รอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาวมาถึง ในเวลา 16.00น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการเคาะเรียกผู้ที่อยู่ภายในห้อง พบนายธนาธัญ เปิดประตูออกมา ภายในห้องพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์ และพบร่างของ น.ส.ไอริน วัย19 ปี (น้องยี่) นอนสภาพเปืลอยกาย ร่างกายบวมอืดและมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย
อีกห้องพบมารดาของผู้ก่อเหตุถูกขังเอาไว้ไม่ให้ออกไปไหน จึงได้ควบคุมตัวนายธนาธัญ และนำตัวส่งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดี ก่อนประสานไปยังตำรวจพิสูจหลักฐานเพื่อเข้ามาดำเนินการหาหลักฐานสาเหตุการณ์ตาย
จากการสอบสวนนายธนาธัญให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.ไอริน จริงโดยมีการซ้อมทุบตีจนเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. จากนั้นได้ใช้ถ่านสำหรับก่อไฟหุงต้มมาทาทั่วร่างกายของศพ เพื่อที่จะไม่ให้มีกลิ่นเหม็น แล้วใช้ชีวิตอยู่กับศพตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมานาน 17 วัน พร้อมขังแม่เอาไว้ในห้องด้วยไม่ให้ออกไปไหน จนกระทั่งศพเริ่มอืดและเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงออกมา จนทำให้คนบริเวณข้างห้องได้กลิ่นจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งไปยังพ่อของน้องยี่ จนกระทั่งนำมาสู่การจับกุมนายธนาธัญได้ในครั้งนี้
ด้านผู้เป็นพ่อเผยว่าตนเสียใจกับการจากไปของลูกสาวมาก ตนเคยเตือนลูกสาวหลายครั้งแล้วเรื่องการคบกับนายธนาธัญ เพราะนายธนาธัญเป็นคนอารมณ์ร้อนชอบเสพยา ระหว่างคบกันในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนี้ ก็มีการทำร้ายร่างกายน้องยี่อยู่บ่อยครั้ง พ่อพักอยู่ตึก 26 น้องยี่ไปอยู่ห้องนายธนาธัญ ตึก 52 เวลาถูกทำร้ายก็จะกลับมาพักที่ห้อง พ่อก็จะเห็นรอยฟกช้ำตามร่างกายอยู่บ่อยครั้ง มีครั้งหนึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม รุนแรงถึงขั้นใช้ท่อนเหล็กตีที่สนามตะกร้อ ก่อนจะลากไปกว่า50 เมตร เพื่อเอาเข้าห้อง จนถึงขั้นพ่อต้องพาไปแจ้งความ ด้านตำรวจให้ไปตรวจร่างกายแล้วเอาใบแพทย์มาแจ้งดำเนินคดี แต่ยังไม่ทันไปพบแพทย์ นายธนาธัญ ก็มาง้อจนลูกสาวสงสารใจอ่อนไม่ไปตรวจร่างกายแล้วกับมาอยู่ด้วยกันอีก จนมาช่วงกลางเดือนตุลาคม เริ่มไม่ได้พบหน้าลูกสาว ลูกสาวไม่ค่อยกลับมาห้อง จึงไปสอบถามลูกสาวคนเล็กก็ได้ความว่าพี่ยี่คงไปอยู่กับเพื่อน จึงไม่ได้ออกตามหาหรือเอะใจอะไร
จนกระทั่งมาทราบข่าวจากเพื่อนที่แจ้งว่าได้กลิ่นเน่าในครั้งนี้
ทั้งนี้ตนอยากจะฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดนายธนาธัญ ฆาตกรให้ถึงที่สุด อย่าให้ได้ออกมาก่อเหตุซ้ำกับใครได้อีก
ด้านพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา และจะนำตัวส่งศาลมีนบุรี เพื่อนำตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อไป

"นักโทษประหารหญิงที่สวยที่สุด" นางฟ้าจากชนบทผู้มีชะตากรรมสุดเศร้า



ย้อนตำนาน "นักโทษประหารหญิงที่สวยที่สุด" นางฟ้าจากชนบทผู้มีชะตากรรมสุดเศร้า
ภาพของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดนักโทษประหาร ซึ่งถูกถ่ายไว้เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ยังคงถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ว่าเธออาจเป็นหนึ่งในนักโทษประหารที่ "หน้าตาสะสวยที่สุด" เท่าที่เคยมีการบันทึกไว้
ชื่อของเธอคือ เหรินเซีย ซึ่งในภาษาจีนแปลว่า “หิมะ” และนี่คือเรื่องราวชีวิตของเธอ ที่เริ่มต้นจากหญิงสาวในชนบท และจบลงด้วยบทลงโทษขั้นสูงสุดของกฎหมายจีน
ชีวิตในวัยเยาว์และจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม
เหรินเซีย เกิดเมื่อปีค.ศ. 1974 ที่มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เธอเติบโตมาในครอบครัวธรรมดาในพื้นที่ชนบท ก่อนจะเข้ามาทำงานในโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งหนึ่งซึ่งมีเจ้าของเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น โรงงานแห่งนี้คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์อันซับซ้อนในชีวิตของเธอ
ในปี 1992 เหรินเซีย และเพื่อนสาวคนสนิทได้ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรมบุตรสาวของเจ้าของโรงงาน ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ที่รับเธอเข้าทำงาน การก่อเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากความตึงเครียดสะสมในหลายมิติ ทั้งในเรื่องครอบครัว ความสัมพันธ์ส่วนตัว และการถูกกดขี่จากผู้มีอำนาจ
แรงจูงใจ: ความแค้นและความกดดันที่เกินรับไหว
จากรายงานของสื่อท้องถิ่นในขณะนั้น ระบุว่า หนึ่งในแรงจูงใจที่นำไปสู่เหตุฆาตกรรม คือ การที่พี่ชายของ เหรินเซีย หายตัวไป หลังจากมีความสัมพันธ์กับลูกสาวคนโตของเจ้าของโรงงาน มีการคาดเดาว่าเหตุการณ์นี้อาจมีความเชื่อมโยงกับอิทธิพลของครอบครัวฝ่ายหญิง แต่คดีกลับไม่เคยมีความคืบหน้า
นอกจากนี้ เหรินเซีย ยังเคยเผชิญกับปัญหาทางจิตใจจากประสบการณ์ส่วนตัว ทั้งการถูกแฟนหนุ่มทอดทิ้งหลังตั้งครรภ์จนต้องทำแท้ง รวมถึงการมีความสัมพันธ์กับเจ้าของโรงงานภายใต้สัญญาว่าจะได้รับตำแหน่งงานที่ดีขึ้น แต่สุดท้ายกลับถูกหลอกและถูกบีบบังคับทางเพศซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จุดแตกหักและการลงมือ
ในช่วงเวลาหนึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบกิจการของโรงงานได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบ และเจ้าของโรงงานเสนอให้เหรินเซีย "เอื้อประโยชน์" ทางเพศแก่เจ้าหน้าที่รายนั้น เพื่อให้กิจการของตนไม่ถูกสั่งปิด พร้อมข่มขู่ว่า หากเธอไม่ยอม จะพบจุดจบเช่นเดียวกับพี่ชาย
การถูกบังคับและถูกข่มขู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอสะสมความเครียด ความคับแค้น และความสิ้นหวัง จนนำไปสู่การวางแผนร่วมกับเพื่อนสนิท ในที่สุดลูกสาวของเจ้าของโรงงานถูกพบว่าเสียชีวิตในบ้านพัก และไม่นานหลังจากนั้น เหรินเซีย กับเพื่อนก็ถูกจับกุม
กระบวนการยุติธรรมและบทสรุปของชีวิต
เหรินเซีย ถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา และถูกตัดสินโทษประหารชีวิตตามกฎหมายของสาธารณรัฐประชาชนจีน แม้ในชั้นศาลเธอจะแสดงออกด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แต่คำพิพากษานี้ก็เป็นจุดจบของชีวิตหญิงสาวผู้เคยมีความฝันและความหวังเช่นเดียวกับใครหลายคน
ในขณะที่เธอได้รับโทษตามกฎหมาย คดีของพี่ชายที่หายตัวไปกลับไม่ได้รับการติดตามหรือคลี่คลายแต่อย่างใด ซึ่งกลายเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบจนถึงทุกวันนี้
บทสรุป
เรื่องราวของเหรินเซียไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงผลของการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ยังชี้ให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และความเปราะบางของผู้หญิงในสังคมที่กดทับ
ในท้ายที่สุด ความงดงามภายนอกของเธออาจเป็นเพียงภาพสะท้อนของชีวิตที่ถูกทำลายจากโครงสร้างอันไม่เป็นธรรมของสังคม
ที่มา
ขอบคุณเนื้อหาภาพจาก:sanook.com

Kategori